ประเมินผล แผนการจัดการความรู้ แผน 2 (รอบ 12 เดือน)
แบบฟอร์ม 2 | : แผนการจัดการความรู้ (KM Action Plan) | |||
ชื่อส่วนราชการ | : สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ | |||
ประเด็นยุทธศาสตร์ | : สร้างคนดี คนเก่ง มีทักษะในงานพัฒนาให้เป็นทุนมนุษย์ (Human Capital) ของประเทศ | |||
องค์ความรู้ที่จำเป็น | : ความรู้ในการปฏิบัติงานของหน่วยงานสนับสนุน | |||
ลำดับ | กิจกรรมการจัดการความรู้ | ตัวชี้วัด | เป้าหมาย | ผลการดำเนินงาน |
1 | การบ่งชี้ความรู้ | มีทะเบียนรายการความรู้ที่ได้รับการบ่งชี้ | 6 เรื่อง | มีการบ่งชี้ความรู้ จำนวน 9 เรื่อง ดังนี้ 1. การวิเคราะห์ทรัพยากรสารสนเทศ (การทำแค็ตตาล็อคหนังสือ) โดยจัดทำเป็น Best Practice คู่มือการทำรายการทรัพยากรสารสนเทศ ตามระบบ WALAI AutoLib 2. ถ่ายทอดความรู้จากการไปสัมมนา เรื่อง การดำเนินงานระบบจัดเก็บเอกสารฉบับเต็มในรูปอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Collection) ตามโครงการเครือข่ายห้องสมุด มหาวิทยาลัยไทย (ThaiLIS) โดยจัดทำเป็นคู่มือการลงรายการเอกสารฉบับเต็มในรูปอิเล็กทรอนิกส์ (TDC) 3. ถ่ายทอดความรู้จากการไปสัมมนา เรื่อง เทคโนโลยีสำหรับการตรวจสอบเพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ผลงานวิชาการ/ผลงานวิชาการ/ผลงานวิจัย/สิ่งพิมพ์ออนไลน์ 4. ถ่ายทอดความรู้จาการไปศึกษาดูงาน ณ งานบริหารทรัพยากรเพื่อการเรียนรู้ (ห้องสมุดคณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เดิม) 5. จัดทำคู่มือการปริ๊นบาร์โคด/การ Add Item,วิธีการทำลาเบล 6. อภิปรายแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อหาแนวทางการดำเนินการวางกฎเกณฑ์การลงรายการในระบบห้องสมุดอัตโนมัติ Walai Autolib ตามกระบวนการ PM 8 งานวิทยบริการ 7. ถ่ายทอดความรู้จากการไปสัมมนาเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการจัดการความรู้พัฒนาคุณภาพ 8. ถ่ายทอดความรู้ เรื่อง ระเบียบวิธีปฏิบัติวิธีการขึ้นชั้นหนังสือ 9. ถ่ายทอดความรู้จากการไปสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การสืบค้นฐานข้อมูล Academic Search Premier และ Premier และ Education Research Complete |
2 | การสร้างและแสวงหาความรู้ | จำนวนบุคลากรที่เข้าร่วมอบรม/สัมมนา | ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 75 |
ภายในหน่วยงาน เพื่อเป็นการสร้างและแสวงหาความรู้เพิ่มเติมให้แก่บุคลากร สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ จัดอบรมให้กับบุคลากรจำนวน 2 โครงการ คือ 1. โครงการพัฒนาการจัดการศึกษาสาขาระบบวิทยบริการอิเล็กทรอนิกส์ (E-library) (โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการโปรแกรมห้องสมุดอัตโนมัติ WALAI AutoLib เวอร์ชั่น 1.3) มีผู้เข้าอบรมได้แก่ บุคลากรของสำนักวิทยฯ ทั้งที่ปฏิบัติงานและดูแลระบบงานห้องสมุดอัตโนมัติ “WALAI AutoLib” รวมทั้งสิ้น 20 คน 2. โครงการพัฒนาการจัดการศึกษาสาขาระบบวิทยบริการอิเล็กทรอนิกส์ (E-library) (โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการใช้งานระบบจัดการข้อมูล Digital Collection และระบบจัดการสารสนเทศ Repository จำนวน 15 คน ภายนอกหน่วยงาน อบรม/ศึกษาดูงาน 1. โครงการพัฒนาการจัดการศึกษาสาขาระบบวิทยบริการอิเล็กทรอนิกส์ (E-library) (โครงการสัมมนาและศึกษาดูงานด้านการบริหารและการบริการงานวิทยบริการ) ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จ.นครราชสีมา บุคลากรเข้าร่วมศึกษาดูงานจำนวน 58 คน 2. สัมมนา เรื่อง เทคโนโลยีสำหรับการตรวจสอบเพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ผลงานวิชาการ/ผลงานวิชาการ/ผลงานวิจัย/สิ่งพิมพ์ออนไลน์ ณ ห้องกิจกรรมเรวัติ พุทธินันท์ หอสมุดปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ 3. ศึกษาดูงาน ณ งานบริหารทรัพยากรเพื่อการเรียนรู้ (ห้องสมุดคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เดิม) 4. สัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การดำเนินงานระบบจัดเก็บเอกสารฉบับเต็มในรูปอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Collection) ตามโครงการเครือข่ายห้องสมุด มหาวิทยาลัยไทย (ThaiLIS) โดยจัดทำเป็นคู่มือการลงรายการเอกสารฉบับเต็มในรูปอิเล็กทรอนิกส์ (TDC) ณ ห้องประชุมศาสตราจารย์ประเสริฐ ณ นคร ชั้น 3 อาคารสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา กรุงเทพฯ 5. สัมมนาเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการจัดการความรู้พัฒนาคุณภาพ ณ ห้องประชุมเฟืองทอง ชั้น 3 อาคารเอนกประสงค์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ศูนย์พระนครเหนือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร 6. สัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การสืบค้นฐานข้อมูล Academic Search Premier และ Premier และ Education Research Complete ณ ชั้น 3 อาคาร 11 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต |
3 | การจัดความรู้ให้เป็นระบบ | มีจำนวนแฟ้มข้อมูลที่รวบรวมความรู้เป็นระบบ | อย่างน้อยประเด็น ละ 1 แฟ้ม |
มีการจัดทำแฟ้มข้อมูลรวบรวมความรู้ จำนวน 1 แฟ้ม |
4 | การประมวลและกลั่นกรองความรู้ | มีกิจกรรม/เสวนาเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ | อย่างน้อย 1 กิจกรรม | – มีการจัดประชุมเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จำนวน 8 ครั้ง รอบ 9 เดือน 1.ชุมชนนักปฏิบัติเทเวศร์ 2. ชุมชนนักปฏิบัติโชติเวช 3. ชุมชนนักปฏิบัติพณิชยการพระนคร 4. ชุมชนนักปฏิบัติพระนครเหนือ รอบ 12 เดือน 1. ชุมชนนักปฏิบัติเทเวศร์ 2. ชุมชนนักปฏิบัติโชติเวช 3. ชุมชนนักปฏิบัติพณิชยการพระนคร 4. ชุมชนนักปฏิบัติพระนครเหนือ – ทำการรวบรวมองค์ความรู้เป็นระบบจำนวน 1 เล่ม |
5 | การเข้าถึงความรู้ | มีจำนวนช่องทางที่เข้าถึงความรู้ | อย่างน้อย 2 ช่องทาง | – มีการเผยแพร่ทาง Web board ของสำนักวิทยบริการฯที่ http://board.rmutp.ac.th/viewthread.php?tid=79&extra=page%3D1 และเว็บไซต์ห้องสมุดของมหาวิทยาลัยที่ http://lib.arit.rmutp.ac.th – มีการจัดทำเป็นเอกสาร และ e-document – มีหนังสือเวียนแจ้งให้ทุกบุคลากรงานห้องสมุดทุกแห่งรับทราบและนำไปปฏิบัติ |
6 | การแบ่งปันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ – จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ |
จำนวนครั้งของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ | 1 ครั้ง | – มีการจัดประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของชุมชนนักปฏิบัติทั้ง 4 แห่ง จำนวน 8 ครั้ง |
-แลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านทาง Web Board/e-mail | ความถี่ของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านทาง Web board/e-mail | 1 ครั้งต่อ 2 เดือน | -แลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านทาง Web Board ที่ http://board.rmutp.ac.th/viewthread.php?tid=79&extra=page%3D1 | |
-ชุมชนนักปฏิบัติ (COP) | จำนวน (COP) | 1 (COP) ต่อ 1 หน่วยงาน |
– มีการจัดตั้งชุมชนนักปฏิบัติขึ้น 4 ชุมชน คือ 1. CL COP : ชุมชนนักปฏิบัติเทเวศร์ 2. CHL COP : ชุมชนนักปฏิบัติโชติเวช 3. BCL COP : ชุมชนนักปฏิบัติพณิชยการพระนคร 4. NBL COP : ชุมชนนักปฏิบัติพระนครเหนือ |
|
7 | การเรียนรู้ | จำนวนบุคคลากรในหน่วยงานที่ได้นำผลไปใช้ | ร้อยละ 100 ของบุคลากรที่นำผลไปใช้ | – มีการนำความรู้ที่ได้จากการจัดทำคู่มือ “Best Pratice คู่มือการทำรายการทรัพยากรสารสนเทศ ตามระบบ Walai AutoLib” ไปให้ห้องสมุดทุกแห่งรับทราบและดำเนินการตามคู่มือ – มีการนำความรู้ที่ได้จากการอบรม จัดทำคู่มือการลงรายการเอกสารฉบับเต็มในรูปอิเล็กทรอนิกส์ (TDC) ไปให้ห้องสมุดทุกแห่งรับทราบและดำเนินการตามคู่มือ – 100% ของบุคลากรที่ได้รับความรู้นำไปใช้ปฎิบัติงานจริง และนำไปปรับปรุงพัฒนางาน |
การประเมินผล องค์ความรู้ที่จำเป็น
องค์ความรู้ที่จำเป็นในการปฏิบัติราชการ ปีงบประมาณ 2553
การจำแนกองค์ความรู้ที่จำเป็นต่อการผลักดันตามประเด็นยุทธศาสตร์ของส่วนราชการ | ||||||
ชื่อส่วนราชการ : สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ | ||||||
เป้าประสงค์ (Objective) | ตัวชี้วัด (KPI)ตามคำรับรอง | เป้าหมาย ของ ตัวชี้วัด |
องค์ความรู้ที่จำเป็น | |||
ประเด็นยุทธศาสตร์ | ต่อการปฏิบัติราชการ | |||||
ตามประเด็นยุทธศาสตร์ | ||||||
สร้างคนดี คนเก่ง มีทักษะในงาน เพื่อพัฒนาให้เป็นทุนมนุษย์ (Human Capital) ของประเทศ | พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถทางด้านไอซีทีเข้าใจการใช้ประโยชน์จากไอซีทีอย่างคุ้มค่าและมีคุณธรรม จริยธรรม | จำนวนบุคลากรในคณะที่ได้รับการพัฒนา | ร้อยละ 75 | – มีการนำความรู้ที่ได้จากการจัดทำคู่มือ “Best Pratice คู่มือการทำรายการทรัพยากรสารสนเทศ ตามระบบ Walai AutoLib” ไปให้ห้องสมุดทุกแห่งรับทราบและดำเนินการตามคู่มือ – มีการนำความรู้ที่ได้จากการอบรม จัดทำคู่มือการลงรายการเอกสารฉบับเต็มในรูปอิเล็กทรอนิกส์ (TDC) ไปให้ห้องสมุดทุกแห่งรับทราบและดำเนินการตามคู่มือ – 100% ของบุคลากรที่ได้รับความรู้นำไปใช้ปฎิบัติงานจริง และนำไปปรับปรุงพัฒนางาน |
||
องค์ความรู้ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติราชการตามประเด็นยุทธศาสตร์ที่เลือกมาจัดทำแผนการจัดการความรู้ คือ | ||||||
แผนการจัดการความรู้แผนที่ 1 | ประเด็นยุทธศาสตร์ : | สร้างคนดี คนเก่ง มีทักษะในงาน เพื่อพัฒนาให้เป็นทุนมนุษย์ (Human Capital) ของประเทศ | ||||
องค์ความรู้ที่จำเป็น : | การวิเคราะห์ทรัพยากรสารสนเทศ (การทำแค็ตตาล็อคหนังสือ) | |||||
เหตุผลที่เลือกองค์ความรู้ : | เพื่อตอบสนองต่อนโยบายและยุทธศาสตร์ | |||||
ตัวชี้วัดตามคำรับรองและเป้าหมายที่เลือกใช้วัดการทำ KM : | ร้อยละ 75 ของบุคลากรที่ได้รับการพัฒนา | |||||
ผู้ทบทวน : น.ส.เพชราภรณ์ เพ็ชรแก้ว ผู้บริหารสูงสุดด้านการจัดการความรู้ (CKO) | ผู้อนุมัติ : ผศ.นิวัตร จารุวาระกูล ผู้บริหารสูงสุดของส่วนราชการ (CEO) | |||||
สรุปผลการดำเนินงาน KM ปี 2552
หลักฐานยืนยันวันรายงานผลการดำเนินงานตามแผนพัฒนาบุคลากรของสำนักเสนอต่อผู้อำนวยการสำนัก