การขยายผลองค์ความรู้ ปี 2553
ปีงบประมาณ 2552 สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้ไปศึกษาดูงานและประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและห้องสมุดกับมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2552 ได้รับความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการงานด้านสารสนเทศ อาทิเช่น ระบบแจ้งซ่อม (Help Desk) ระบบแสกนลายนิ้วมือ ระบบรับนักศึกษาผ่าน Website ระบบ e-Office ระบบห้องสมุด Walai AutoLIB
ปีงบประมาณ 2553 สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้นำองค์ความรู้ดังกล่าวมาขยายผลด้วยการประชุม แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และพัฒนาระบบแจ้งซ่อมของมหาวิทยาลัย เป็นการพัฒนาโปรแกรมในลักษณะ Webbase Application บน Website ของมหาวิทยาลัยให้บุคลากรใส่ User และ Password เพื่อแจ้งปัญหาเกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์และเครือข่ายผ่าน website ได้สะดวก เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งแล้วก็จะดำเนินการมอบหมายงานให้ผู้เกี่ยวข้อง และรายงานความคืบหน้าของการดำเนินงาน พร้อมจัดทำสถิติปัญหาที่เกิดขึ้นผ่าน Website รวมถึงจะได้พัฒนาเป็นคู่มือการพัฒนาระบบแจ้งซ่อมต่อไป และยังได้ขยายผลการจัดการความรู้เรื่องระบบสารสนเทศเพื่อการประกันคุณภาพและการบริหาร มาพัฒนาต่อให้มีรูปแบบการรายงานเพิ่มขึ้น สนองความต้องการของผู้ใช้
นอกจากนั้น ยังได้นำแนวคิดจากการดูงานห้องสมุด มาพัฒนาระบบงานห้องสมุดของสำนักวิทยบริการ ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น รวมถึงได้นำแนวคิดมาประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับบรรณารักษ์ห้องสมุดของสำนักจัดทำเป็นแผนการจัดการความรู้ ปี 2553 เรื่องความรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์ทรัพยากรสารสนเทศ (การทำแคตตาล็อคหนังสือ) ดังรายละเอียดแผนด้านล่าง
♣ แผนการจัดการความรู้ ปี 2553
แบบฟอร์ม 2 : แผนการจัดการความรู้ (KM Action Plan) | ||||||
ชื่อส่วนราชการ : สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ | ||||||
ประเด็นยุทธศาสตร์ : สร้างคนดี คนเก่ง มีทักษะในงานพัฒนาให้เป็นทุนมนุษย์ (Human Capital) ของประเทศ | ||||||
องค์ความรู้ที่จำเป็น : ความรู้ในการปฏิบัติงานของหน่วยงานสนับสนุน | ||||||
ลำดับ | กิจกรรมการจัดการความรู้ | ระยะเวลา | ตัวชี้วัด | เป้าหมาย | กลุ่มเป้าหมาย | ผู้รับผิดชอบ |
1 | การบ่งชี้ความรู้ | ม.ค – | มีทะเบียนรายการ | 6 เรื่อง | บรรณารักษ์และเจ้าหน้าที่ห้องสมุด | – KM ทีม |
– ความรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์ทรัพยากรสารสนเทศ | ก.ย.53 | ความรู้ที่ได้รับการบ่งชี้ | กลุ่มงานห้องสมุด สวท. | |||
(การทำแคตตาล็อคหนังสือ) | ||||||
2 | การสร้างและแสวงหาความรู้ | ม.ค. – | กลุ่มงานห้องสมุด สวท. | |||
– ภายในหน่วยงาน | ก.ย.53 | จำนวนบุคลากรที่ | ไม่น้อยกว่า | บรรณารักษ์และเจ้าหน้าที่ห้องสมุด | – KM ทีม | |
– ภายนอกหน่วยงาน | เกี่ยวข้องที่เข้าร่วม | ร้อยละ 75 | มทร.พระนคร | |||
อบรม/สัมมนา | ||||||
3 | การจัดความรู้ให้เป็นระบบ | ม.ค. – | ||||
– จัดทำแฟ้มข้อมูลรวบรวมความรู้ | ก.ย.53 | มีจำนวนแฟ้มข้อมูลที่ | อย่างน้อย | บรรณารักษ์และเจ้าหน้าที่ห้องสมุด | – KM ทีม | |
รวบรวมความรู้เป็น | ประเด็นละ | กลุ่มงานห้องสมุด สวท. | ||||
ระบบ | 1 แฟ้ม | |||||
4 | การประมวลและกลั่นกรองความรู้ | ม.ค. – | ||||
– จัดกิจกรรมเสวนาเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ | ก.ย.53 | มีกิจกรรม/เสวนาเพื่อ | อย่างน้อย | บรรณารักษ์และเจ้าหน้าที่ห้องสมุด | – KM ทีม | |
– รวบรวมองค์ความรู้ | การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ | 1 กิจกรรม | กลุ่มงานห้องสมุด สวท. | |||
5 | การเข้าถึงความรู้ | ม.ค. – | อย่างน้อย | บรรณารักษ์และเจ้าหน้าที่ห้องสมุด | – KM ทีม | |
– เผยแพร่ผ่าน website | ก.ย.53 | มีจำนวนช่องทางที่เข้า | 2 ช่องทาง | กลุ่มงานห้องสมุด สวท. | ||
– จัดทำเป็นเอกสาร, e-document | ถึงความรู้ | |||||
– บอร์ดประชาสัมพันธ์ | ||||||
– การอบรม | ||||||
– หนังสือ/บันทึกเวียน | ||||||
6 | การแบ่งปันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ | ม.ค. – | ||||
– จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ | ก.ย.53 | -จำนวนครั้งของการแลก | 1 ครั้ง | บรรณารักษ์และเจ้าหน้าที่ห้องสมุด | – KM ทีม | |
– แลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านทาง Web board / e-mail | เปลี่ยนเรียนรู้ | กลุ่มงานห้องสมุด สวท. | ||||
-ความถี่ของการแลก | 1 ครั้งต่อ 2 เดือน | – KM ทีม | ||||
เปลี่ยนผ่าน Web board / | กลุ่มงานห้องสมุด สวท. | |||||
– ชุมชนนักปฎิบัติ (COP) | – จำนวน COP | 1 COP ต่อ | ||||
หน่วยงาน | ||||||
7 | การเรียนรู้ | ม.ค. – | ||||
– การนำการจัดการความรู้ไปใช้ในการปรับปรุง | ก.ย.53 | จำนวนบุคลากรใน | ร้อยละ 5 | บรรณารักษ์และเจ้าหน้าที่ห้องสมุด | กลุ่มงานห้องสมุด สวท. | |
การให้บริการของหน่วยงาน | หน่วยงานที่ได้นำผลไปใช้ | ของบุคลากร | ||||
ที่นำผลไปใช้ |
ผู้ทบทวน : (ลงชื่อ) ผศ.สุธาทิพย์ เกียรติวานิช ผู้จัดการความรู้ สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ
ผู้อนุมัติ : (ลงชื่อ) ผู้ช่วยาสตราจารย์นิวัตร จารุวาระกูล ผู้บริหารสูงสุดด้านการจัดการความรู้ สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ
♣ องค์ความรู้ที่จำเป็นในการปฏิบัติราชการ ปีงบประมาณ 2553
การจำแนกองค์ความรู้ที่จำเป็นต่อการผลักดันตามประเด็นยุทธศาสตร์ของส่วนราชการ | |||||
ชื่อส่วนราชการ : สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ | |||||
เป้าประสงค์ (Objective) | ตัวชี้วัด (KPI)ตามคำรับรอง | เป้าหมาย ของตัวชี้วัด | องค์ความรู้ที่จำเป็น | ||
ประเด็นยุทธศาสตร์ | ต่อการปฏิบัติราชการ | ||||
ตามประเด็นยุทธศาสตร์ | |||||
สร้างคนดี คนเก่ง มีทักษะในงาน เพื่อพัฒนาให้เป็นทุนมนุษย์ (Human Capital) ของประเทศ | พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถทางด้านไอซีทีเข้าใจการใช้ประโยชน์จากไอซีทีอย่างคุ้มค่าและมีคุณธรรม จริยธรรม | จำนวนบุคลากรในคณะที่ได้รับการพัฒนา | ร้อยละ 75 | ความรู้ที่จำเป็นในการเพิ่มสมรรถนะและประสิทธิภาพในการทำงาน | |
องค์ความรู้ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติราชการตามประเด็นยุทธศาสตร์ที่เลือกมาจัดทำแผนการจัดการความรู้ คือ | |||||
แผนการจัดการความรู้แผนที่ 1 | ประเด็นยุทธศาสตร์ : | สร้างคนดี คนเก่ง มีทักษะในงาน เพื่อพัฒนาให้เป็นทุนมนุษย์ (Human Capital) ของประเทศ | |||
องค์ความรู้ที่จำเป็น : | การวิเคราะห์ทรัพยากรสารสนเทศ (การทำแค็ตตาล็อคหนังสือ) | ||||
เหตุผลที่เลือกองค์ความรู้ : | เพื่อตอบสนองต่อนโยบายและยุทธศาสตร์ | ||||
ตัวชี้วัดตามคำรับรองและเป้าหมายที่เลือกใช้วัดการทำ KM : | ร้อยละ 75 ของบุคลากรที่ได้รับการพัฒนา | ||||
ผู้ทบทวน : น.ส.เพชราภรณ์ เพ็ชรแก้ว ผู้บริหารสูงสุดด้านการจัดการความรู้ (CKO) | ผู้อนุมัติ : ผศ.นิวัตร จารุวาระกูล ผู้บริหารสูงสุดของส่วนราชการ (CEO) |