โครงการประกวดแนวปฏิบัติที่ดี (Good Practices)
การบูรณาการการจัดการความรู้สู่ชุมชนและประชาคมอาเซียน ระดับอุดมศึกษา
ชื่อเรื่อง/แนวปฏิบัติที่ดี การสอบเพื่อรับรองมาตรฐานวิชาชีพด้านเทคโนโลยีสารสนเทศตามหลักสากล
ชื่อ-นามสกุลผู้นำเสนอ นายนพณรรจ์ เนตรสกูลณี
ชื่อสถาบันอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร
หน่วยงาน สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ
เบอร์โทรศัพท์ 0 282 9009-15 ต่อ 6765
เบอร์โทรสาร 0 280 7919
E-mail address nopphanan.n@rmutp.ac.th
บทสรุปผู้บริหาร
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ (สวท.) มีวัตถุประสงค์ให้บุคลากรของสำนักวิทยบริการฯ ได้พัฒนาความรู้ความสามารถในการทำงานด้านเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และเป็นการรับรองความสามารถของบุคลากรตามมาตรฐานสากล เพื่อสนองตอบความต้องการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่มั่นคงปลอดภัยให้กับนักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัย เป็นการเตรียมพร้อมของมหาวิทยาลัยในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน จึงเริ่มดำเนินโครงการให้นักวิชาการคอมพิวเตอร์ปฏิบัติการสอบใบรับรองวิชาชีพด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Certificate) ในปี พ.ศ.2553 มีผู้เข้าสอบ 10 คน สอบผ่าน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 100 ในปี 2556 มีการปรับปรุงหลักสูตรตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง บุคลากรของสำนักฯเข้าสอบ 9 คน สอบผ่าน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 88.8 ผลที่ได้รับคือทำให้นักวิชาการมีการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ และสามารถนำความรู้มาใช้ในการปฏิบัติงานรวมทั้งเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ให้กับนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลในการสอบเพื่อรับรองมาตรฐานสากลต่อไป
ประวัติหน่วยงาน
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ เริ่มดำเนินการจัดตั้งเป็นโครงการจัดตั้งสำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2548 โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์นิวัตร จารุวาระกูล เป็นประธานโครงการจัดตั้งสำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มีสำนักงานชั่วคราว ตั้งอยู่ที่อาคาร 1 ชั้น 4 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร เทเวศร์ ต่อมาเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 ได้มีกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ให้เป็นสำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นหน่วยงานหลักในการจัดหา พัฒนา ดูแล รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศให้กับหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร มีศูนย์วิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ 4 แห่ง ได้แก่ ศูนย์โชติเวช ศูนย์พณิชยการพระนคร ศูนย์เทเวศร์ และศูนย์พระนครเหนือ การดำเนินงานของสำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร มีภารกิจดังนี้
ยุทธศาสตร์ที่ 1: (e-Learning) การสร้างโอกาส เพิ่มขีดความสามารถและยกระดับมาตรฐานการเรียนรู้ด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์
ยุทธศาสตร์ที่ 2: (e-Management) การเป็นผู้นำในการใช้ ICT เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการและการให้บริการทางการศึกษา
ยุทธศาสตร์ที่ 3: (e-Manpower) การผลิตและพัฒนาคุณภาพผู้จบการศึกษาให้มีสมรรถนะทาง ICT เพื่อพัฒนาประเทศ
การดำเนินงานในอดีต
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ (สวท.) กำหนดให้นักวิชาการคอมพิวเตอร์ปฏิบัติการทุกคนสอบเพื่อรับรองมาตรฐานวิชาชีพด้านเทคโนโลยีสารสนเทศตามหลักสากลที่ผ่านมา ผู้สอบต้องศึกษาและทำความเข้าใจวิธีการขั้นตอนการสอบด้วยตนเอง โดยข้อมูลโดยการสืบค้นข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต ข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษ กระจายอยู่หลายที่ หลากหลายแนวทาง หลายความคิดเห็น กอปรกับการสอบมีค่าใช้จ่ายสูง เฉลี่ยคนละ 6,642 บาท จึงสร้างความสับสนและความลังเลให้กับผู้เข้าสอบ
แนวทางการดำเนินงานตามหลัก (PDCA)
การดำเนินกิจกรรมดังกล่าวสามารถแยกออกเป็นขั้นตอนตามหลัก PDCA ได้ดังนี้
ระยะที่ 1 การวางแผน (Plan)
1. ศึกษาความต้องการของผู้สอบโดยคำนึงถึง
1.1 ความต้องการของบุคลากร จากการสำรวจความคิดเห็นของนักวิชาการคอมพิวเตอร์ของ สวท.พบว่า มีความสนใจในการสอบ เพราะจะได้ทดสอบความรู้ความสามารถของตนเอง และเป็นการพัฒนาตนเองตามมาตรฐานสากล
1.2 ความสอดคล้องต่อภาระงาน เนื่องจาก สวท. มีนักวิชาการคอมพิวเตอร์ที่ปฏิบัติงานอยู่ในฝ่ายต่างๆตามภาระงาน ทำให้มีความรู้ความสามารถในแต่ละงานแตกต่างกันไป สวท. จึงได้กำหนด
2. ศึกษาความต้องการของหน่วยงาน
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มุ่งหวังให้บุคลากรของสำนักพัฒนาความรู้ความสามารถเพื่อยกระดับความสามารถในการทำงานด้านเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จึงมีนโยบายให้นักวิชาการคอมพิวเตอร์ปฏิบัติการทุกคนต้องเข้ารับการทดสอบความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับภาระงาน เพื่อเป็นการรับรองความสารถของบุคลากร และยกระดับมาตรฐานการปฏิบัติงานให้ได้มาตรฐานสากลตอบสนองความต้องการทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่มั่นคงและปลอดภัยให้กับนักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัย เป็นการเตรียมพร้อมของมหาวิทยาลัยในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
3 การเลือกวิชาที่สอบ ต้องศึกษาข้อมูลล่วงหน้า ว่ามีการสอบวิชาใดบ้าง และขอบเขตเนื้อหาของข้อสอบ มีเรื่องใดบ้าง โดยสามารถดูได้ที่ http://www.microsoft.com/learning/en-us/mcsa-windows-server-certification.aspx (Microsoft Certified Systems Administrator (MCSA)
4 ศึกษาหลักเกณฑ์วิชาสอบ ให้ดูว่าวิชานั้นกำหนดให้ต้องผ่านการสอบวิชาอื่นมาก่อนหรือไม่ โดยดูที่ required exam จากตัวอย่างในภาพจะเห็นว่าผู้สอบสามารถเลือกสอบจากวิชาใดก่อนก็ได้ แต่แนะนำให้สอบเรียงตามลำดับวิชา เพราะจะเริ่มจากวิชาง่ายไปยาก
5 ศึกษารายละเอียดวิชาสอบ ผู้สอบสามารถคลิกเข้าไปดูรายละเอียดหัวข้อที่จะทำการทดสอบทักษะความรู้ ในภาพเป็นรายละเอียดของวิชา Installing and Configuring Windows Server 2012 รหัส 410 และราคาสอบ
6 ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ต่างๆ เช่น เว็บไซต์กลุ่ม ผู้ดูและระบบแห่งประเทศไทย http://www.thaiadmin.org/board/index.php ที่มีการให้คำแนะนำ ประสบการณ์และตอบปัญหาเกี่ยวกับการสอบจากผู้ที่เคยเข้ารับการทดสอบมาก่อน
ระยะที่ 2 การลงมือปฏิบัติ (Do)
1. การซื้อใบสมัครและสมัครสอบ
ผู้สมัครต้องทำการสมัครและชำระเงินค่าสอบผ่านเว็บไซต์ โดยสิ่งที่ผู้สมัครต้องมีคือ อีเมล์ของไมโครซอฟท์ เช่น Hotmail และบัตรเครดิตเพื่อใช้ในการชำระเงิน
ชั้นตอนการซื้อใบสมัคร
1.1 ไปที่ http://bsf01.com/microsoft_vouchers/mcsa_winserver_sqlserver.aspx (สำหรับ MCSA : Windows Server 2012 Certification) เพื่อซื้อ Voucher หรือใบสมัครสอบ และตรวจสอบวิชาที่จะสอบ แล้วให้คลิก Buy Now
* ข้อดีของการซื้อ Voucher รวมทุกวิชา คือจะได้ส่วนลดจากราคาปกติ ประหยัดกว่าซื้อแยกทีละวิชา
* ในช่วงเวลาหนึ่ง ไมโครซอฟท์จะให้ข้อเสนอพิเศษ เช่น Second Shot ทำให้สามารถลงสอบครั้งที่สองได้ สำหรับในกรณีที่สอบไม่ผ่านในครั้งแรก ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการสอบผ่าน และประหยัดเงินค่าสอบของผู้สมัคร
1.2 เลือกรายวิชาที่สอบ ใส่ ชื่อ-นามสกุล อีเมล์ (Hotmail) ที่อยู่ ข้อมูลบัตรเครดิต เป็นภาษาอังกฤษ แล้วคลิก Purchase
* สถานที่สอบ (Country Where Test Will Be Taken) ให้เลือกเป็น Thailand และสกุลเงิน (Currency) เลือก BAHT
* ควรตรวจสอบข้อมูลที่กรอก โดยเฉพาะชื่อ-นามสกุล อีเมล์ เพราะหากผิดจะแก้ไขได้ยาก เนื่องจากผู้สอบ ไม่สามารถแก้ไขได้เอง ต้องส่งอีเมล์ไปให้ไมโครซอฟท์เป็นผู้แก้ไข
1.3 ล็อกอินเข้าอีเมล์ที่ใช้สมัคร ผู้สอบจะได้รับรายละเอียดการสั่งซื้อ (Prometric Voucher Confirmation) จาก Prometric ซึ่งเป็นศูนย์สอบของไมโครซอฟท์
2. การสมัครสอบ
2.1 ไปที่ www.register.prometric.com คลิก Login
2.2 สำหรับผู้ที่เคยสอบแล้วให้ Login ได้เลย แต่ผู้ที่ยังไม่เคยสอบให้สร้าง Username ใหม่ก่อน โดยคลิกที่ Create a new password
2.3 ใส่ข้อมูลส่วนตัว สำหรับ Prometric ID ผู้สอบครั้งแรกให้เว้นว่างไว้ แล้วคลิก Submit ด้านล่าง
2.4 ผู้สอบจะได้รับ e-mail รายละเอียดการสมัครจากทาง Prometric
3. การเลือกวันสอบและศูนย์สอบ
3.1 ไปที่เว็บไซต์ของ Prometric https://www.register.prometric.com/login.asp แล้วล็อกอินเข้าระบบ
3.2 คลิกที่ LOCATE A TEST CENTER เพื่อเลือกศูนย์สอบ
3.3 เลือกประเทศและวิชาที่สอบ
* ผู้สอบสามารถลงสอบครั้งละวิชาได้ ไม่จำเป็นต้องลงทุกวิชาที่ซื้อจาก Voucher พร้อมกันทั้งหมด เพื่อให้ผู้สอบมีเวลาเตรียมตัวในการสอบแต่ละวิชาได้เต็มที่
3.4 เลือกวันและเวลาสอบ แนะนำว่าควรเผื่อเวลาในการเดินทางไปสอบ เพื่อให้มีเวลาในการเตรียมตัวก่อนเข้าสอบ
3.5 ใส่ข้อมูลหน่วยงานที่ปฏิบัติงาน แล้ว Next
3.6 ในหน้า Payment Information ให้คลิก Enter Promo Code/Voucher
3.7 ในช่อง Discount Type เลือกเป็น Voucher Number และในช่อง Voucher Number/Promo Code ให้เปิดเมล์ที่ได้รับจากการซื้อ Voucher และนำใส่ในช่องนี้ ใส่รหัส CAPTCHA แล้วคลิก Validate
3.8 ผู้สอบจะได้รับอีเมล์จาก Prometric ซึ่งจะบอกชื่อวิชา วันเวลา สถานที่สอบ และการชำระเงิน
4. การเตรียมตัวสอบ
4.1 หาข้อมูลวิชาที่สอบ โดยเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ของไมโครซอฟท์ ว่าขอบเขตเนื้อหาของข้อสอบวัดทักษะความรู้ในเรื่องใดบ้าง
4.2 ศึกษาและฝึกปฏิบัติงานกับระบบงานจริง เพื่อทำความเข้าใจกับการทำงานของระบบ เพราะข้อสอบจะเป็นแบบประยุกต์ใช้ความรู้ที่มีในการแก้โจทย์
4.3 รวมกลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างผู้เข้าสอบ โดยเฉพาะผู้ที่เคยผ่านการเข้าสอบ เพื่อให้คำแนะนำและแนวทางในการวิเคราะห์โจทย์และทำข้อสอบ
4.4 จัดอบรมเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสอบโดยเชิญวิทยากรจากภายนอกที่มีความรู้ในเรื่องนั้นมาบรรยายเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ และเติมเต็มเทคนิคในการใช้ระบบงานและการทำข้อสอบ
4.5 ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ เช่น เว็บไซต์กลุ่มผู้ดูและระบบแห่งประเทศไทย ที่มีผู้เข้ามาสอบถามและตอบคำถาม, แสดงความคิดเห็นหรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับการสอบประกาศนียบัตรอยู่เสมอ
5. แนวข้อสอบ
แนวข้อสอบ เราสามารถดูแนวข้อสอบได้จากเว็บไซต์ของไมโครซอฟท์ ที่จะอธิบายว่าข้อสอบวิชานั้นวัดทักษะในเรื่องใดบ้าง ตัวอย่างเช่น Exam 70-410 : Installing and Configuring Windows Server 2012 http://www.microsoft.com/learning/en-us/exam-70-410.aspx
ข้อสอบจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
5.1 ข้อสอบแบบมีคำตอบเดียว ข้อสอบแบบนี้จะมีคำตอบที่ถูกต้องเพียงข้อเดียว เช่น
– ถ้ามีเซิร์ฟเวอร์ Windows Server 2012 และต้องการเพิ่ม Hard Disk ขนาด 4 TB คุณต้องใช้คำสั่งใด
– ต้องตั้งค่าอย่างให้สามารถพิมพ์งานได้แม้ในขณะที่ Print Server มีปัญหา
– หากต้องการสร้าง Group Policy Object ให้มีผลกับทุก user accounts ใน OU ยกเว้น Sales Group ต้องทำอย่างไร
– ต้องทำอย่างไรให้ client computers ใน Active Directory domain สามารถสร้าง record ใน primary zone ได้
– หากต้องการ uninstall domaim controller ที่มี Windows Server 2012 แบบ Server Core ติดตั้งอยู่ ต้องทำอย่างไร
– ไฟล์ script แบบใด ที่ใช้ promote domain controller
5.2 ข้อสอบที่ตอบได้มากกว่าหนึ่งคำตอบ ข้อสอบแบบนี้จะยากกว่ากว่าแบบแรก เพราะต้องเลือกคำตอบให้ถูกทั้งหมด ผิดข้อใดข้อหนึ่งก็ไม่ได้คะแนน เช่น
– ถ้าคุณต้องการจะติดตั้ง GUI ให้กับ Server Core คุณต้องใช้คำสั่งใดบ้าง เลือกมาสองข้อ
– คุณต้องใช้ตั้งค่า packaged apps อย่างไร เพื่อป้องกันผู้ใช้งานติดตั้งโปรแกรมจาก Windows Store application
– ถ้าคุณต้องการทราบรายชื่อผู้ใช้งานที่สามารถอัพโหลดไฟล์ที่มีขนาดเกินกว่า 100 MB ต้องใช้คำสั่งใด
5.3 ข้อสอบแบบเรียงลำดับ ข้อสอบแบบนี้จะยากที่สุด เพราะนอกจากจะต้องเลือกคำตอบที่ถูกต้อง และยังต้องเรียงลำดับคำตอบให้ถูกต้องด้วย เช่น
– หากคุณต้องการกำหนด IPV6 address prefix ให้ Network Adapter แต่ละตัว ต้องทำอย่างไร ให้เลือกคำตอบพร้อมเรียงลำดับให้ถูกต้อง
– ถ้าคุณต้องการตั้งค่า pass-through disk สำหรับเครื่องที่เป็น virtual machine คุณต้องทำอย่างไร
– ถ้าคุณต้องการย้าย backup GPO ของ domain controller ใน domaim controller อย่างไรจึงจะใช้เวลาน้อยที่สุด
– ถ้าคุณต้องการอธิบายให้ administrator ฟัง เรื่อง Always Offline Mode ควรใช้คำอธิบายตามข้อใด เลือกได้มากกว่าหนึ่งข้อ
– ถ้าคุณต้องการเปิดใช้ Single-root I/O virtualization ต้องทำอย่างไร
6. การสอบ
ผู้สอบต้องไปรายงานตัวที่ศูนย์ตามวันและเวลาที่ได้ลงทะเบียนไว้ จากนั้นแจ้งชื่อ-นามสกุล และรอเรียกเข้าห้องสอบ ข้อสอบมีทั้งหมด 50 ข้อ มีเวลาทำข้อสอบประมาณ 2 โมง โดยแต่ละหลักสูตรจะมีวิชาที่ต้องสอบดังนี้
6.1 หลักสูตร MCSA: Windows 8 สอบ 2 วิชา
– Configuring Windows
– Managing and Maintaining Windows 8
6.2 หลักสูตร MCSA: Windows Server 2012 สอบ 3 วิชา
– Installing and Configuring Windows Server 201
– Administering Windows Server 2012
– Configuring Advanced Windows Server 2012 Services
6.3 หลักสูตร MCSE: Server Infrastructure ต้องผ่านการสอบ MCSA: Windows Server 2012 และสอบเพิ่ม 2 วิชา
– Designing and Implementing a Server Infrastructure
– Implementing an Advanced Server Infrastructure
ระยะที่ 3 ตรวจสอบ (Check)
1. ตรวจสอบผลสอบ
ผู้สอบจะทราบผลการทดสอบหลังจากเสร็จสิ้นการทดสอบ และได้รับรายงานผลคะแนน (Score Report) แสดงรายละเอียดการสอบและคะแนนที่ได้ทั้งผู้ที่สอบผ่านและสอบตก โดยผู้สอบต้องได้คะแนน 700 คะแนนขึ้นไปจากคะแนนเต็ม 1000 คะแนน เมื่อผู้สอบผ่านครบทุกวิชาตามเกณฑ์ที่กำหนด จะได้ใบประกาศนียบัตรวิชาชีพด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Certificate)
2. การประเมินผลการสอบ
รายงานผลคะแนน (Score Report) จะแสดงคะแนนและระดับทักษะความสามารถของผู้สอบในด้านต่างๆ ซึ่งจะทำให้ผู้สอบทราบว่าต้องมีการฝึกฝนในด้านเพิ่มเติม โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ไม่ผ่านการสอบ เพื่อจะได้เตรียมพร้อมสำหรับการสอบครั้งต่อไป
3. การปรับปรุงพัฒนา
3.1 สำหรับผู้ที่สอบผ่าน
เมื่อทราบคะแนนระดับทักษะความสามารถแล้ว ให้ศึกษาและฝึกปฏิบัติเพิ่มเติมในทักษะที่ขาดความชำนาญ เพื่อเติมเต็มความรู้ความเข้าใจให้กับผู้สอบเพื่อจะได้นำไปใช้ในการปฏิบัติงานและเตรียมพร้อมสำหรับการสอบในระดับที่สูงขึ้น
3.2 สำหรับผู้ที่สอบไม่ผ่าน ให้ผู้สอบวิเคราะห์สาเหตุว่าเกิดจากสิ่งใด เช่น
– เวลาในการเตรียมตัวสอบ ผู้สอบมีเวลาในการเตรียมตัวสอบเพียงพอหรือไม่
– การศึกษาหาข้อมูล เนื่องจากเทคโนโลยีสารสนเทศมีการเปลี่ยนแปลงตลอด ทำให้เนื้อหาในการสอบมีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย เราจึงควรติดตามข่าวสารอยู่เสมอ
– การฝึกปฏิบัติกับระบบงานจริง เนื่องจากเนื้อหาการสอบจะเป็นการประยุกต์ใช้ความรู้จากการปฏิบัติงานจริง ถ้าผู้สอบไม่มีพื้นฐานเพียงพอ จะไม่สามารถวิเคราะห์โจทย์เพื่อหาคำตอบที่ถูกต้องได้
– การฝึกทักษะภาษาอังกฤษ เนื่องจากข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษ ต้องใช้ทักษะด้านการอ่านและการแปลพอสมควร ผู้สอบจึงต้องศึกษาข้อมูลที่เป็นภาษาอังกฤษประกอบด้วย เพื่อสร้างความคุ้นเคยและจดจำคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยให้เราทำความเข้าใจข้อสอบได้ดีขึ้น และมีเวลาในการวิเคราะห์ข้อสอบมากขึ้น
– การเลือกวันสอบและศูนย์สอบ ควรเลือกสอบในช่วงที่ไม่มีภาระงานเร่งด่วน และศูนย์สอบสามารถเดินทางได้สะดวก เพื่อที่ผู้สอบได้มีสมาธิกับการสอบได้อย่างเต็มที่
ระยะที่ 4 การนำไปใช้ (Action)
1. นำความรู้ไปใช้ในการออกแบบและติดตั้ง Server ของมหาวิทยาลัย ให้เหมาะสมกับงาน เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและประหยัดค่าใช้จ่ายของมหาวิทยาลัย
2. นำไปใช้ในการพัฒนาระบบสารสนเทศของมหาวิทยาลัยให้มีประสิทธิภาพ รองรับความต้องการของนักศึกษาและมหาวิทยาลัย
3. นำไปใช้ในการถ่ายทอดให้ความรู้กับนักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัย เพื่อให้สามารถนำความรู้นั้นไปใช้ในการเรียนการปฏิบัติงานต่อไป
ผลกระทบที่เป็นประโยชน์หรือการสร้างคุณค่า
1. ประโยชน์ที่ผู้สอบได้รับ
1.1 นักวิชาการคอมพิวเตอร์มีความกระตือรือร้นในการพัฒนาตนเอง
1.2. สร้างความภูมิใจให้กับตนเอง
1.3. ได้รับเงินค่าตอบแทนพิเศษ
2. ประโยชน์ที่มหาวิทยาลัยได้รับ
บุคลากรที่สอบผ่านสามารถถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ เป็นวิทยากรอบรมนักศึกมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครในการสอบเพื่อรับรองมาตรฐานวิชาชีพตามหลักสากล
ปัจจัยแห่งความสำเร็จ
1. ผู้บริหารผลักดันให้นักวิชาการคอมพิวเตอร์เข้ารับการทดสอบ
2. การเตรียมความพร้อมก่อนสอบ การศึกษาข้อมูลล่วงหน้า การประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และการปฏิบัติงานกับระบบจริง เพื่อสร้างทักษะและความมั่นใจให้กับผู้สอบ
3. ผู้ได้รับการรับรองมาตรฐานวิชาชีพด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Certificate) ของมหาวิทยาลัย จะได้รับเงินค่าตอบแทนพิเศษ
ปัญหา อุปสรรคและแนวทางแก้ไข
1. ปัญหาและอุปสรรค
1.1 นักวิชาการคอมพิวเตอร์ปฏิบัติการขาดทักษะภาษาอังกฤษในการทดสอบมาตรฐานวิชาชีพด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Certificate)
1.2 ค่าใช้จ่ายสูงในการเข้ารับการทดสอบ
2. แนวทางแก้ไข
2.1 ส่งให้นักวิชาการคอมพิวเตอร์ได้ศึกษาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่เป็นภาษาอังกฤษ เช่น หนังสือหรือวิดีโอสื่อการสอนต่างประเทศ และจัดอบรมภาษาอังกฤษ
2.2 วางแผนการสอบล่วงหน้า เพื่อให้นักวิชาการคอมพิวเตอร์ปฏิบัติการที่เข้าสอบได้มีเวลาเตรียมศึกษาข้อมูลและงบประมาณไว้ใช้ในการสอบ
ความท้าทายต่อไป
1. ส่งเสริมให้นักวิชาการคอมพิวเตอร์สอบผ่านการรับรองวิชาชีพด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Certificate) ทุกคน
2. ส่งเสริมให้ผู้ที่สอบผ่านแล้วสามารถสอบผ่านในระดับที่สูงขึ้นต่อไป
3. ส่งเสริมให้นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครในสาขาที่เกี่ยวข้องเข้ารับการสอบและสอบผ่านตามเกณฑ์มาตรฐานสากลเป็นการเตรียมพร้อมสู่อาเซียน
การอบรมเชิงปฏิบัติการ Windows Server 2012 เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้ารับการทดสอบมาตรฐานวิชาชีพ